การอบรมสำหรับบุคคลทั่วไป
โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ : ชุดหลักสูตร
กระบวนกรเพื่อสร้างสรรค์การประชุมที่เน้นการมีส่วนร่วมในองค์กร✓ รับเฉพาะคนที่เคยผ่านการเรียนชุดกระบวนกร เท่านั้น
✓ การอบรมนี้มีประกาศนียบัตรมอบให้ (สำหรับผู้ที่เข้าอบรมครบทุกวัน)
ถึง เพื่อนเสม
สืบเนื่องจากมีเพื่อนกระบวนกรบางท่านที่เคยเรียนหลักสูตรกระบวนกรกับเสมได้ถามถึงหลักสูตรการ Fa ในการประชุมพูดคุยเพื่อแสวงหาข้อตกลงร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อเรื้อรังและเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งที่ฝังรากลึกมายาวนาน ทีมเสมได้ไตร่ตรองเห็นร่วมกันว่าจะเปิดหลักสูตรกระบวนกรเพื่อฝึกฝนการ Fa ในการประชุมพูดคุยเพื่อตอบโจทย์ทั้งสามด้านของปัญหาการพูดคุย (ดังมีรายละเอียดเนื้อหาของหลักสูตรด้านล่างนี้)
ชุดหลักสูตรนี้จะเปิดรับเฉพาะท่านที่เคยผ่านการเรียนหลักสูตรชุดกระบวนกรจากรุ่นใดก็ได้ โดยรับจำนวนไม่เกิน 36 ท่าน ชุดหลักสูตรนี้จะเรียนต่อยอดจากที่เคยเรียนมา ซึ่งต้องอาศัยการมีทักษะพื้นฐานบางอย่างเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทีมเสมฯจึงขอแจ้งข่าวนี้ถึงเพื่อนเสมทุกท่านให้ทราบโดยทั่วกัน
อนึ่ง การเรียนรู้ชุดการอบรมนี้นอกจากจะเป็นการทบทวนทักษะสำคัญของการทำงานกระบวนการแล้ว ยังถือเป็นโอกาสเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ของพี่น้องกระบวนกรจากหลากหลายรุ่น รายละเอียดของหลักสูตรและวันเวลามีดังต่อไปนี้
กำหนดการ
อบรมจํานวน 3 ครั้งต่อเนื่อง
ครั้งที่ 1 จากความแตกต่างหลากหลายและความติดตันสู่การแสวงหาข้อตกลงร่วมอย่างสร้างสรรค์
วันที่ 21-24 มีนาคม 2567ครั้งที่ 2 การดำเนินการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาเรื้อรังอย่างลงลึกและรอบด้าน
วันที่ 2-5 พฤษภาคม 2567ครั้งที่ 3 การคลี่คลายความขัดแย้งด้วยใจกรุณา
วันที่ 20-23 มิถุนายน 2567
เงื่อนไขการเข้าอบรม
เปิดรับเฉพาะกระบวนกรที่เคยผ่านการเรียนชุดกระบวนกร เท่านั้น
เนื้อหาการอบรม
หลักสูตรที่ 1
จากความแตกต่างหลากหลายและความติดตันสู่การแสวงหาข้อตกลงร่วมอย่างสร้างสรรค์
มนุษย์เราเมื่อต้องใช้ชีวิตเพื่อเป็นอยู่และทำงานร่วมกันตั้งแต่ระดับครอบครัว หน่วยงานองค์กรไปจนถึงระดับสังคม ล้วนจะต้องทำความรับรู้เข้าใจมุมมองความเห็นรวมถึงความต้องการของกันและกันเพื่อนำไปสู่การแสวงหาข้อตกลงร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์และพอจะเป็นที่ยอมรับกันได้ บนความจริงที่ว่า เราแต่ละคนล้วนมีความเห็น มุมมอง บุคลิกภาพ ความต้องการและการให้ความสำคัญที่แตกต่างหลากหลาย
ดังนั้นในชีวิตประจำวันเอาเข้าจริงเรากลับพบว่า เป็นเรื่องที่แสนยากที่จะคุยกันตรงไปตรงมาให้รู้เรื่องว่า ตกลงเราจะเอาอย่างไรกันแน่ท้ายสุดมักจบด้วยข้อสรุปที่ไม่เป็นที่ยอมรับกันทุกฝ่ายและมีอารมณ์คั่งค้างกลายเป็นปัญหาความขัดแย้งและปัญหาความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความน่าเบื่อเมื่อเวลาต้องพูดคุยประสานงานกัน และส่งผลต่องานในที่สุด การอบรมชุดนี้จะมาทำความเข้าใจว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น และจะมีวิถีทางทำอย่างไรได้บ้างในการแสวงหาข้อตกลงร่วมกัน
เนื้อหาการอบรม
- เพราะอะไรเราจึงคุยกันให้รู้เรื่องได้ยาก(เข้าใจและหาข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับกันได้ยาก)
- สืบค้นสิ่งเร้นลับภายในของคนที่เป็นกับดักทำให้เรามักเชื่อว่า เราถูก คนอื่นผิด (คนอื่นต้องฟังและต้องปรับตามเรา)
- เหตุผล หลักการ รวมถึงความคิดความเชื่อต่างๆที่เราชอบอ้างถึงเพื่อความถูกต้องสมเหตุสมผลในการตัดสินใจใดๆนั้น “อาจจะ” ถูกประดิษฐ์สร้างเพื่อรับใช้สิ่งเร้นลับที่อยู่ลึกภายใน มากกว่าจะถูกใช้เพื่ออธิบายความจริงหรือความเหมาะสมตามเนื้อผ้าของเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่กำลังเผชิญ
- เงื่อนไข โครงสร้าง วัฒนธรรม สถานภาพที่เป็นลำดับชั้นหรือตำแหน่งแห่งที่เราต่างยึดติดสำคัญมั่นหมายทั้งในระดับครอบครัว องค์กรและสังคม
- ข้อจำกัดในการรับรู้ความเป็นจริงของทุกฝ่าย ซึ่งนำไปสู่มุมมอง ความคิดความเชื่ออันผิดพลาดและคับแคบ
- คำพูด วิธีการสื่อสาร รวมถึงท่าทีที่กระตุกกระตุ้นให้อีกฝ่ายประทุอารมณ์จนปิดกั้นการรับฟัง
- การขาดทักษะสำคัญในการสร้างพื้นที่พูดคุยที่นำไปสู่ข้อตกลงที่ยอมรับร่วมกันได้
- อุปสรรคหรือข้อจำกัดอื่นอันน่าปวดหัวที่ล้อมกรอบชวนให้บรรยากาศการประชุมพูดคุยที่สร้างสรรค์ถูกทำลายลง
- วิธีการรับมือกับเหตุปัจจัยที่กล่าวถึงใน ข้อ 1)
- ทักษะสำคัญและการผสมผสานทักษะต่างๆในการดำเนินการประชุมพูดคุย
- ฝึกฝนการดำเนินการประชุมพูดคุยจริง และสรุปบทเรียนจากการฝึกฝน
หลักสูตรที่ 2
การดำเนินการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาเรื้อรังอย่างลงลึกและรอบด้าน
เป็นการฝึกฝนการดำเนินการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซากจำเจจนกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง โดยจะมุ่งเน้นผลลัพธ์ไปสู่การหาทางออกจากปัญหาอย่างยั่นยืนที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกัน
เนื้อหาการอบรม
- เพราะอะไรการประชุมร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาหน่วยงานหรือองค์กรจึงมักไม่ประสบผลสำเร็จ มีแนวโน้มยืดเยื้อ วกวน ได้ข้อสรุปไม่ชัดเจนหรือไม่เป็นที่ยอมรับร่วมกัน
- การติดกับดักของการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นที่ไม่ครบถ้วน ไม่ลงลึกรอบด้าน การให้ข้อมูลที่พร่ามัวหรือย้อนแย้งไม่ตรงกัน
- การขาดทักษะในการดำเนินการประชุมเพื่อนำไปสู่ การวางขอบเขตของปัญหาที่ชัดเจน การสำรวจสืบค้นสาเหตุอันเชื่อมโยงลงไปสู่สาเหตุระดับรากเหง้า การวางขอบเขตที่ชัดเจนของผลลัพธ์ของการแก้ไขปัญหา การหาทางออกจากปัญหาอย่างสร้างสรรค์และสอดคล้องสัมพันธ์กับสาเหตุที่แท้จริง รวมถึงขาดทักษะการสรุปประเด็นแลกเปลี่ยนที่คมชัด ขาดทักษะการตั้งคำถามกลุ่มเพื่อสืบค้นลงลึกและรอบด้าน การทักษะการจัดวางประเด็นการแลกเปลี่ยนอย่างเชื่อมโยงเป็นระบบ ขาดทักษะการบันทึกข้อมูลและข้อสรุปอย่างชัดเจนเป็นระบบเพื่อใช้อ้างอิงในการประชุม และขาดทักษะการจัดการอารมณ์ที่ประทุขึ้นจากความเห็นที่ขัดแย้งกัน เป็นต้น
- อุปสรรคและข้อจำกัดอื่นที่ลดทอนประสิทธิภาพและบรรยากาศการประชุมที่สร้างสรรค์ ซึ่งมักนำไปสู่ความอึดอัด ไม่ปลอดภัยและน่าเบื่อที่ต้องประชุมร่วมกัน
- หลักการสำคัญและศิลปะในการประชุมพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันทุกขั้นตอน ตั้งแต่การกำหนดและวางขอบเขตของปัญหา การสำรวจสืบค้นสาเหตุที่ลงลึกและรอบด้าน การวางผลลัพธ์ที่ต้องการร่วมกัน การแสวงหาทางออกที่สร้างสรรค์
- การฝึกฝนทักษะต่างๆที่จำเป็นต่อการดำเนินการประชุม(อ้างอิงสัมพันธ์กับการขาดทักษะต่างๆที่กล่าวถึงใน ข้อ 1)
หลักสูตรที่ 3
การคลี่คลายความขัดแย้งด้วยใจกรุณา
ปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาระหว่างบุคคล ระหว่างกลุ่มคนภายในองค์กร รวมไปถึงในครอบครัว ที่สำคัญคือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเราเอง ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่เราไม่สามารถจะคลี่คลายหรือหาวิธีการจัดการกับความขัดแย้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือไม่ก็กลัวและหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับความขัดแย้งเหล่านั้น นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ความขัดแย้งลุกลามและหมักหมมจนยากที่จะแก้ไขเยียวยา
การอบรม “คลี่คลายความขัดแย้งด้วยใจกรุณา” จะทำให้เรามองความขัดแย้งได้รอบด้านมากขึ้น พร้อมทั้งแปรเปลี่ยนความขัดแย้งไปสู่การเรียนรู้และเติบโตภายใน พร้อมทั้งสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่มักนำไปสู่ความขัดแย้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื้อหาการอบรม
- ความหมายของความขัดแย้ง ความขัดแย้งทำงานอย่างไร ส่งผลกระทบอย่างไรต่อผู้คน งาน และความสัมพันธ์ในกลุ่มองค์กร
- เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดความขัดแย้งและการให้อาหารหล่อเลี้ยงความขัดแย้งให้มีความเข้มข้นรุนแรงและขยายวงลุกลาม (วิเคราะห์ทั้งปัจจัยภายในของคน และปัจจัยภายนอกที่รายล้อมกลุ่มคนให้ขัดแย้งกันได้ง่ายและฝังเป็นรากลึก ซึ่งยากที่จะบรรเทาเยียวยาให้ดีขึ้น)
- ความเข้าใจเรื่องตัวตน(อัตตา)ในฐานะเหตุรากเหง้าของความขัดแย้งแตกแยกกัน
- การจัดการความขัดแย้งด้วยอำนาจเหนือและความรุนแรง และการจัดการความขัดแย้งด้วยการหลีกเลี่ยงกลบเกลื่อนความขัดแย้งนำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้งได้อย่างไร
- หลักการและทัศนคติสำคัญที่ควรวางให้ถูกต้องเหมาะสมต่อความขัดแย้ง
- ศาสตร์และศิลป์ในการคลี่คลายความขัดแย้งในแนวทางสันติวิธีและการใช้อำนาจร่วม
- รูปแบบต่างๆของแนวทางสันติวิธีในการคลี่คลายความขัดแย้ง
- รายละเอียดหลักการสำคัญของกระบวนการเจรจากลุ่มที่มีความขัดแย้งเรื้อรังมานาน
- รายละเอียดหลักการสำคัญของการทำหน้าที่ของกระบวนกรในการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง
- การฝึกฝนทักษะสำคัญของกระบวนกรเพื่องานไกล่เกลี่ย
กระบวนการอบรม
ใช้กิจกรรมผ่านประสบการณ์ตรงที่หลากหลาย เช่น กิจกรรมหรือเกมเพื่อการเรียนรู้ ละครสั้น บทบาทสมมุติ การบรรยายเฉพาะเนื้อหาที่เป็นหลักการสำคัญ การพูดคุยกลุ่มย่อย การรวมกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือเรื่องบทเรียนต่างๆ
วิทยากร
สถานที่
หมายเหตุ
- กระบวนการอบรมจัดให้นั่งพื้นเป็นวงกลมบนเบาะรองนั่ง การแต่งกายจึงควรเป็นกางเกง และหากท่านใดไม่สะดวกนั่งพื้น ขอความกรุณาแจ้งหมายเหตุในใบสมัคร เพื่อให้เจ้าหน้าที่จัดเตรียมเก้าอี้ไว้ล่วงหน้า
- ห้องประชุมเป็นห้องแอร์ จึงอาจต้องเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วย
บริจาคเพื่อร่วมกิจกรรม
หมายเหตุ
- สามารถผ่อนชำระค่าลงทะเบียนได้ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่หน้าสมัครอบรม)
- ค่าลงทะเบียนนี้มีบริการอาหารว่างเช้าและบ่าย แต่ไม่มีบริการอาหารกลางวัน เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงมีร้านอาหารให้เลือกรับประทานได้ตามความสะดวกของแต่ละบุคคล
- หากมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่ถึง 30 ท่าน ทางเสมสิกขาลัยจะขอยกเลิกการจัดกิจกรรมนี้ เนื่องจากจำนวนคนมีผลต่อการจัดกิจกรรม โดยเสมสิกขาลัยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 1 เดือน
- ใบเสร็จจากการร่วมกิจกรรมจะออกเป็น “รายการเงินบริจาคเพื่อกิจกรรม…” ไม่สามารถออกใบเสร็จเป็นค่าลงทะเบียนได้ เนื่องจากเป็นองค์กรสาธารณกุศล
- กรุณาตรวจสอบที่ว่างและกรอกใบสมัครก่อนเข้าร่วมกิจกรรม