ขุมทรัพย์ที่งดงามในความทุกข์คืออะไร

Posted on

ผู้เขียน จอย ชนาธิป

https://www.facebook.com/enjoythinkingth

แค่พูดถึงความทุกข์ก็ดูน่าหดหู่แล้ว อะไรกันที่เป็นขุมทรัพย์ของความทุกข์ มันจะจริงหรือที่ในความทุกข์ที่ดูเป็นเรื่องแง่ลบจะมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่ หลายคนหลีกหนีความรู้สึกทุกข์นี้ แต่จริงๆ แล้วในความทุกข์ของคนเราก็มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่เยอะเลย และถ้าจะบอกว่าเราจะเป็นเราทุกวันนี้ไม่ได้เลยถ้าไม่มีความทุกข์นั้นปนอยู่ด้วย สิ่งที่น่าสนใจ คือ ถ้าเราไม่เป็นทุกข์กับมัน เราก็อาจจะไม่เป็นสุขกับมันเหมือนกัน เอ๊ะ จริงหรือเปล่านะ วันนี้เราไปเข้าร่วมกิจกรรมคอร์ส ค้นพบขุมทรัพย์ในใจตน กุญแจแห่งความทุกข์ที่หลงลืม ที่พูดถึงเรื่องความทุกข์ในใจและขุมทรัพย์ในคนเราที่เกิดมาจากความทุกข์นั้น เราเรียนมาแล้วรู้สึกว่ามันให้มุมมองที่เปลี่ยนความคิดเราไปในทางที่เข้าใจโลกมากขึ้นและเข้าใจคนมากขึ้นด้วย เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ไว้ตรงนี้

กิจกรรมแรกคือการระบายสีความทุกข์ที่เข้ามาในใจเราบ่อยๆ ตอนเลือกสีและออกแบบการระบายมันทำให้เราเห็นลักษณะของความทุกข์ที่เราเป็นได้ละเอียดชัดเจนมากขึ้น เรามีวาดเป็นสัญลักษณ์บ้าง เป็นขีดๆ วงๆ ไม่เป็นรูปเป็นร่างบ้าง เรากดสีเบาหนักต่างกัน ซึ่งแต่ละอย่างที่เราเลือกระบายมันสะท้อนความรู้สึกของความทุกข์นั้นออกมาได้ดีมาก เพราะความทุกข์มันเป็นมวนที่อวนๆ อยู่ภายใน พอเราระบายมันออกมา เราก็เข้าใจความรู้สึกที่เราเป็นอยู่ภายในได้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เราเห็นว่าความทุกข์แต่ละอันมันเชื่อมโยงกันยังไง และการหนีจากความทุกข์นั้นก็จะมาเจอความทุกข์นี้ได้

หลังจากระบายสีเราก็ได้อธิบายความทุกข์ของเราให้เพื่อนๆ ได้ฟัง และเพื่อนๆ ก็บอกว่าเค้าเห็นแง่ดีอะไรในความทุกข์ของเรา ตรงนี้เป็นสิ่งที่ดีมากๆ ที่ทำให้เราได้รู้ว่าความทุกข์ที่เรามองว่ามันเป็นทุกข์นั้น จริงๆ แล้ว มันมีสิ่งงดงามที่เป็นขุมทรัพย์ซ้อนอยู่ด้วย มันทำให้เราเข้าใจว่าสิ่งที่เรามองว่ามันเป็นความทุกข์ของเรานั้น จริงๆ มันเป็นเพียงแค่คุณสมบัติหนึ่งๆ ที่มีทั้งแง่ดีและแง่ไม่ดี มีเป็นหนึ่งเดียวกัน มาควบคู่กันเป็นแพคเกจ เช่น เราเป็นคนที่ทะเยอทะยานและขี้เบื่อ มันต้องมาด้วยกัน แยกกันไม่ได้ ถ้าเรามองแง่ไม่ดี เราก็จะมองว่าเราเป็นทุกข์ที่เราขี้เบื่อ แต่ขุมทรัพย์ของความขี้เบื่อก็คือการที่เราได้เป็นคนที่ทะเยอทะยาน ซึ่งนั่นก็คือข้อดีของมัน มันเลยทำให้เราไม่รังเกียดตัวเองอีกต่อไป เราโอบรับสิ่งที่เรามองว่าเป็นทุกข์ทั้งหลายได้อย่างสะดวกใจมากยิ่งขึ้น เรามองมุมใหม่ว่ามันมาพร้อมกับขุมทรัพย์ เราอยากเก็บมันไว้มากกว่าเดิม แม้ความทุกข์มันจะยังอยู่ก็ตาม เมื่อเราเลือกมอง และเลือกใช้มันให้ถูกที่ถูกเวลา เราก็จะรักตัวเราในทุกแง่มุมมากขึ้น รักทั้งความทุกข์และขุมทรัพย์ในตัวเราเอง กิจกรรมนี้ทำให้เราเข้าใจแง่มุมของสิ่งดีๆ ในความทุกข์มากขึ้นเยอะเลย เราชอบมากๆ มันทำให้เรารักทุกอย่างที่เราเป็นจริงๆ

กิจกรรมถัดมาเป็นการทำท่าทางที่เรามักจะรู้สึกเป็นทุกข์ หลายคนทำท่าท่างห่อเหี่ยวมาก ไม่ว่าจะมีอะไรในใจ คนภายนอกก็พอเดาออกว่าเป็นทุกข์อยู่แน่ๆ กระบวนกรให้เรานึกถึงความรู้สึกเป็นทุกข์อยู่ซักพัก เราเองก็เหี่ยวไปเลย ความคิดแย่ๆ เข้ามาในหัวเต็มไปหมด ละพอยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปอีก แล้วซักพักกระบวนกรก็ให้เราปรับเปลี่ยนท่าทางให้สบายมากขึ้น พอเราเปลี่ยนท่าได้ซักพัก เราก็รู้สึกสบายใจขึ้นไปด้วยื สิ่งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า ร่างกายกับความรู้สึกมันเชื่อมโยงกัน เหมือนที่เค้าบอกว่าเวลาเศร้าให้เราไปยิ้มหน้ากระจก ยิ้มแบบไม่ต้องมีสาเหตุ แล้วเราจะเริ่มค่อยๆ รู้สึกดีขึ้นแบบไม่มีเหตุผล กระบวนการนี้มันก็เป็นอย่างนั้นเลย มันทำให้เรารู้ว่าความรุ้สึกแย่ๆ มันไม่ได้จะอยู่กับเราเสมอไป แต่เราไปยึดมันเอง ถ้าเรารู้จักปล่อย ปรับ เปลี่ยน มันก็สลายไปได้ เวลาที่เรายึด มันจะคงอยู่ หรือยิ่งถ้าเราแต่งเติมมัน มันก็จะยิ่งมีพลังใหญ่โตเข้าไปอีก เราต้องรู้ตัวเอง ว่ากำลังรู้สึกอะไร คิดอะไรอยู่ แล้วขยับร่างกาย ความคิด ความรู้สึก ให้มาอยู่ในโหมดที่ดี ที่ตัวเราเองต้องการ แล้วความทุกข์มันก็จะทำอะไรเราไม่ได้นาน เราต้องรู้จักควบคุมมัน อย่าให้มันมาควบคุมเรา

กระบวนการทั้งหมดของวันนี้ทำให้เราเข้าใจความทุกข์และขุมทรัพย์ในตัวเองชัดเจนมากยิ่งขึ้น มองความทุกข์อย่างเข้าใจทั้งแง่มุมบวกและลบ รู้วิธีปรับตัวกับความทุกข์ และรักความเป็นตัวตนของตัวเองมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดมาในรูปแบบประสบการณ์ที่เกิดขึ้นภายในใจและความคิดของเรา ถือว่าเป็นคอร์สที่ปรับเปลี่ยนมุมมองเราได้เยอะเลย จากคนที่รังเกลียดความทุกข์ กลายเป็นคนที่เข้าใจและพร้อมจะโอบรับมันไว้ได้

คอร์สนี้เหมาะกับคนที่รู้สึกเป็นทุกข์ อยากหลีกหนีความเป็นทุกข์ อยากรักตัวเองหรือชอบตัวเองมากกว่าเดิม คอร์สนี้จะทำให้มุมมองเกี่ยวกับความทุกข์ของคุณเปลี่ยนไป คุณจะไม่ต้องหลีกหนีมันอีกต่อไป คุณจะเข้าใจและอยากมีมันอยู่ไว้ คุณจะได้เห็นถึงความงดงามของมันด้วย ทัศนคติของคุณจะเปลี่ยนไปอีกด้านเลย คุณจะมีความสุขที่มีมันอยู่ในชีวิตมากขึ้นแน่นอน

ใครสนใจเราแนะนำไปเรียนหลักสูตรค้นพบขุมทรัพย์ในใจตน กุญแจแห่งความทุกข์ที่หลงลืม โดย คุณรชต แซ่ตั้น และ คุณปรีดี วิทยานนท์ ที่สถาบันเสมสิกขาลัย มูลนิธิเสฐียรโกเศศนาคะประทีป https://semsikkha.org/ หรืออ่านเนื้อหาสรุปเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/ETarticle12