ฝึกทักษะกระบวนกรเพื่อสร้างสรรค์การเรียนรู้

หลักสูตร Public & In-House

ฝึกทักษะกระบวนกร
เพื่อสร้างสรรค์
การเรียนรู้

หลักสูตร Public & In-House

การเป็นกระบวนกรคือการ “ปลุกพลังการเรียนรู้” ที่ซ่อนอยู่ในทุกคน 

เราเชื่อว่า ทุกคนมีศักยภาพภายใน ที่พร้อมจะพัฒนาและเปลี่ยนแปลง

หลักสูตรนี้ชวนคุณเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เชื่อมโยงสู่ชีวิตจริง เพื่อการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในจิตใจ ทัศนคติ และการกระทำ ในบรรยากาศกัลยาณมิตร เกื้อกูล และสร้างแรงบันดาลใจ ก้าวสู่การเป็นกระบวนกรที่สร้างคุณค่า ทั้งต่อตัวเอง ทีม และสังคม

Facilitator หรือที่รู้จักในชื่อ กระบวนกร ทำหน้าที่เป็นผู้จัด อำนวยความสะดวก สนับสนุน สร้างพื้นที่ปลอดภัย สร้างสิ่งแวดล้อมในการเรียนรู้ให้ผู้เรียน ซึ่งคำว่าสิ่งแวดล้อมประกอบไปด้วยตัวกระบวนกร ตัวผู้เรียน และกิจกรรมที่ดำเนินไปโดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และกระบวนกรก็มีบทบาทที่มีความเข้มข้นหลายระดับในแต่ละกิจกรรม

กระบวนกร เสมสิกขาลัย มุ่งเน้นการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมให้กับกลุ่มคน เพื่อส่งเสริมศักยภาพในการเรียนรู้ด้วยตัวของผู้เรียนเอง ให้สามารถพัฒนาความรู้เหล่านั้นในการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสม โดยมีความเชื่อพื้นฐานว่า “ทุกคนมีศักยภาพภายในและสามารถเรียนรู้เพื่อพัฒนา เปลี่ยนแปลงตนเองได้”

ในกระบวนการอบรมเป็นการสร้างสรรค์หรือจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย เชื่อมโยงองค์ความรู้แต่ละด้านไปสู่การปฏิบัติจริงในชีวิต และมีบรรยากาศของความเป็นกัลยาณมิตรที่เกื้อกูลกัน ที่จะนำไปสู่การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และการเปลี่ยนแปลงผู้เรียนในหลากหลายด้าน ทั้งด้านทัศนคติ ด้านจิตใจ(ความมั่นคงภายใน) และด้านพฤติกรรม

กิจกรรมนี้เหมาะสำหรับบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ที่สนใจกระบวนการเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลง ตนเองและสังคม การทำงานเป็นเครือข่าย และต้องการพัฒนาทีมบุคลากรที่สามารถจัดกระบวนการเรียนรู้ แบบมีส่วนร่วมได้

  1. สร้างให้เกิดทีมกระบวนกรที่เน้นการเรียนรู้แนวจิตวิญญาณ ให้กับองค์ที่เน้นพื้นฐานการทำงานส่งเสริมการเรียนรู้และทำงานเป็นเครือข่าย โดยทำให้เกิดการสร้างกระบวนการเรียนรู้ควบคู่ไปกับการทำงานอย่างต่อเนื่อง
  2. เสริมสร้างให้เกิดกระบวนกร ที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการเปลี่ยนแปลงภายใน ใช้กระบวนการที่หลากหลาย และประยุกต์ให้เกิดการออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับวัตถุประสงค์หรืองานที่ทำ โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานการเสริมสร้างศักยภาพทั้งทางพฤติกรรม จิตใจ และปัญญา อย่างได้สมดุล โดยแบ่งเป้าหมายเป็น ๓ ด้านคือ
    • ทัศนคติ มีความเข้าใจหรือมีทัศนคติในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการเปลี่ยนแปลงจากภายใน และเป็นกระบวนการอย่างมีส่วนร่วม
    • จิตใจ ได้ฝึกฝนภาวะความมั่นคงภายในในการเป็นผู้นำกระบวนการเรียนรู้
    • พฤติกรรมและทักษะ สามารถออกแบบการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับวัตถุประสงค์การทำงานขององค์กร และมีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นในการนำกระบวนการ
  3. สนับสนุนภาคีเครือข่ายที่ทำงานด้านกระบวนกรจิตวิญญาณ

หลักสูตรนี้ประกอบด้วยการอบรม 5 ครั้ง (ระยะเวลาอบรมทั้งหมด 18 วัน) ได้แก่

ครั้งที่ 1 สร้างสรรค์ความสัมพันธ์เพื่อรากฐานของพื้นที่การเรียนรู้ที่ทรงพลัง (3 วัน)
ครั้งที่ 2 ภาวะผู้นำในความเป็นกระบวนกร (3 วัน)
ครั้งที่ 3 การฝึกฝนทักษะพื้นฐานอย่างเป็นลำดับสำหรับกระบวนกร (4 วัน)
ครั้งที่ 4 การออกแบบกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้และการสรุปบทเรียนอย่างเชื่อมโยงลงลึก (4 วัน)
ครั้งที่ 5 การจัดการเรียนรู้เพื่อสำรวจและเปลี่ยนแปลงโลกภายในของผู้เรียน (4 วัน)

ครั้งที่ 1
สร้างสรรค์ความสัมพันธ์เพื่อรากฐานของพื้นที่การเรียนรู้ที่ทรงพลัง
  1. “การจัดกระบวนการเพื่อเอื้ออำนวยให้ง่าย”(Facilitate ตัวย่อ = Fa) นั้นสำคัญอย่างไรต่อการจัดการเรียนรู้ที่ทรงพลังต่อการประชุมพูดคุยร่วมกันในกิจการงาน ในทุกเป้าประสงค์ของกลุ่มองค์กร รวมถึงสำคัญอย่างไรต่อการแสวงหาความร่วมมือของกลุ่มองค์กร
  2. บทบาทหน้าที่ของ “กระบวนกร” (Facilitator)ในมุมกว้างสามารถทำอะไรได้บ้าง ในการการเป็นอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว กลุ่มองค์กรและในระดับสังคม
  3. การสร้างสรรค์ความสัมพันธ์ที่ดีเป็นรากฐานในการสร้างพื้นที่การมีส่วนร่วมของกลุ่มองค์กรและสังคม ทั้งในแง่พื้นที่การเรียนรู้ร่วมกัน  พื้นที่ประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่มาจากความแตกต่างหลากหลาย และพื้นที่การหล่อหลอมพลังร่วมเพื่อการทำงานร่วมกันอย่างไหลลื่น
  4. เราจะทำการสืบค้นสำรวจถึงสาเหตุอย่างลงลึกและรอบด้านว่าเพราะอะไรการเป็นอยู่ร่วมกันและการทำงานร่วมกันในเวลาที่เนิ่นนานขึ้น จึงมีแนวโน้มทำให้คนมีความสุขน้อยลง  ความสัมพันธ์แย่ลง ซึ่งมักนำไปสู่ผลงานที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ
  5. ทางออกสำคัญเพื่อทำให้การเป็นอยู่และการทำงานร่วมกันมีทิศทางที่ดีขึ้น ศึกษาบทบาทหน้าที่ของกระบวนกรในการสนับสนุนภารกิจนี้ว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์ที่กลุ่มองค์กรกำลังย่ำแย่
  6. เหตุใดการเป็นอยู่และการทำงานร่วมกัน ตลอดจนการเรียนรู้ร่วมกันจึงมีแนวโน้มทำให้เกิดความรู้สึกเสี่ยงไม่ปลอดภัย ในการจัดกระบวนการต่างๆ ในการทำงานหรือในการเรียนรู้ กระบวนกรจะเผชิญหน้าและรับมือกับความรู้สึกเสี่ยงไม่ปลอดภัยจนสามารถสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับกลุ่มคนได้อย่างไร
ครั้งที่ 2
ภาวะผู้นำในความเป็นกระบวนกร
  1. เหตุใดการบริหารหรือการนำกลุ่มองค์กรของผู้นำจึงมีแนวโน้มสร้างความอึดอัดขัดเคืองจากลูกน้อง ไม่สามารถหล่อหลอมพลังร่วมให้ขับเคลื่อนงานได้อย่างมีพลัง และการเข้าถึงหัวใจของการ Fa รวมถึงการมีทักษะต่างๆในการ Fa ของผู้นำสำคัญอย่างไรในการขับเคลื่อนงานร่วมกันอย่างมีพลัง  หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ ผู้นำกลุ่มองค์กรจำเป็นต้องมีทักษะของกระบวนกร
  2. เหตุใดครูหรือวิทยากรที่สร้างการเรียนรู้ให้คนจึงจำเป็นต้องมีภาวะผู้นำที่ลุ่มลึก ในขณะที่ต้องเผชิญกับความยุ่งยากซับซ้อนในการจัดการเรียนรู้กับผู้เรียนที่แตกต่างหลากหลาย  และมีสิ่งเร้นลับภายในเป็นกำแพงขวางกั้นการเรียนรู้เติบโต
  3. ผู้นำกลุ่มองค์กรและกระบวนกรจำเป็นต้องเข้าใจเรื่องอำนาจ และวิธีการใช้อำนาจในการบริหารและในการสร้างการเรียนรู้ ทั้งในแง่วิธีการใช้อำนาจที่ส่งเสริมและทำลายพลังความร่วมมือในพื้นที่การมีส่วนร่วมทุกชนิด   ดังนั้นทักษะการ Fa จะเข้ามามีบทบาทที่เหมาะสมกับการใช้อำนาจอย่างลงตัวได้อย่างไร
  4. สำรวจสืบค้นความหมายของ“กระบวนการเรียนรู้”เพื่อใช้เป็นบาทฐานในฝึกฝนของกระบวนกรเพื่อสร้างการเรียนรู้ที่ทรงพลัง
  5. สำรวจสืบค้นเหตุปัจจัยสำคัญที่ต้องสร้างสรรค์หรือต้องมีเพื่อทำให้การเรียนรู้มีพลังในการเปลี่ยนแปลงผู้เรียนอย่างลึกซึ้งและหลายด้านหลายมิติของความเป็นมนุษย์
    • สภาวะภายใน ทักษะและทัศนคติเกี่ยวกับการเรียนรู้ที่จำเป็นของการเป็นกระบวนกร
    • การวางแผนออกแบบชุดการเรียนรู้ จะต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง และสัมพันธ์กัน  อย่างไร
    • การเตรียมหรือสร้างพื้นที่การเรียนรู้ที่เหมาะสมกับเนื้อหา และผู้เรียน รวมถึงพื้นที่ปลอดภัยในกาเรียนรู้ หรืออาจจะเสี่ยงแต่ได้เรียนรู้
    • การเตรียมการเพื่อนำไปสู่ความเข้าใจผู้เรียนที่มีความแตกต่างหลากหลายในการเปิดรับการเรียนรู้ รวมถึงการเตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้
    • การออกแบบกิจกรรมผ่านประสบการณ์ตรงที่สัมพันธ์กับเนื้อหาที่เรียน
    • การสรุปบทเรียนที่เชื่อมโยงเป็นระบบ ง่ายต่อการเข้าใจเนื้อหาที่เรียน
ครั้งที่ 3
การฝึกฝนทักษะพื้นฐานอย่างเป็นลำดับสำหรับกระบวนกร
  1. ความหมายและความสำคัญ ของทักษะการฟังอย่างลึกซึ้งในการจัดกระบวนการเรียนรู้ กระบวนกรควรเข้าใจถึงเหตุปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการฟังอย่างลึกซึ้ง รวมถึงเข้าใจถึงวิธีการและปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ฟังได้อย่างลึกซึ้ง จากนั้นทุกท่านจะต้องฝึกฝนผ่านการปฏิบัติจริง
  2. ความหมายและความสำคัญของทักษะการจับประเด็นในการจัดกระบวนการเรียนรู้ กระบวนกรควรเข้าใจถึงเหตุปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการจับประเด็นรวมถึงเข้าใจถึงวิธีการและปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สามารถจับประเด็นได้แม่นยำ จากนั้นทุกท่านจะต้องฝึกฝนผ่านการปฏิบัติจริง
  3. ความหมายและความสำคัญของทักษะการใช้วิธีคิดที่เป็นระบบ(หรือกระบวนการคิดที่เป็นระบบ)ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ กระบวนกรควรเข้าใจถึงเหตุปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้วิธีคิดให้เป็นระบบ รวมถึงเข้าใจถึงวิธีการและปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สามารถใช้วิธีคิดที่เป็นระบบมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ จากนั้นทุกท่านจะต้องฝึกฝนผ่านการปฏิบัติจริง
  4. ความหมายและความสำคัญของทักษะการนำเสนอที่ตรงประเด็นเข้าใจง่ายในการจัดกระบวนการเรียนรู้ กระบวนกรควรเข้าใจถึงเหตุปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเสนอที่ตรงประเด็นเข้าใจง่าย รวมถึงเข้าใจถึงวิธีการและปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สามารถนำเสนอได้ตรงประเด็นเข้าใจง่าย จากนั้นทุกท่านจะต้องฝึกฝนผ่านการปฏิบัติจริง
  5. ความหมายและความสำคัญของทักษะการตั้งคำถามอย่างเชื่อมโยงลงลึกในการจัดกระบวนการเรียนรู้ กระบวนกรควรเข้าใจถึงเหตุปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการตั้งคำถามอย่างเชื่อมโยงลงลึก รวมถึงเข้าใจถึงวิธีการและปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สามารถตั้งคำถามได้อย่างเชื่อมโยงลงลึก จากนั้นทุกท่านจะต้องฝึกฝนผ่านการปฏิบัติจริง
ครั้งที่ 4
การออกแบบกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้และการสรุปบทเรียนอย่างเชื่อมโยงลงลึก
  1. ความหมายและความสำคัญของกิจกรรมผ่านประสบการณ์ตรงในการจัดการเรียนรู้
  2. วิธีการออกแบบหรือสร้างสรรค์กิจกรรมผ่านประสบการณ์ตรงที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่กระบวนกรจะนำสู่การเรียนรู้ จากนั้นทุกท่านจะต้องฝึกฝนการออกแบบกิจกรรมด้วยการปฏิบัติจริง
  3. ความหมายและความสำคัญของการสรุปบทเรียนในการจัดการเรียนรู้
  4. หลักการและศิลปะในการสรุปบทเรียนให้เชื่อมโยงลงลึกและง่ายต่อการเข้าใจเข้าถึงบทเรียนที่เกิดขึ้นร่วมกันของผู้เรียน จากนั้นทุกท่านต้องฝึกฝนการสรุปบทเรียนด้วยการปฏิบัติจริง
  5. หลักการและศิลปะในการให้ข้อสังเกตหรือข้อเสนอแนะ(Feedback)ในการฝึกทำกระบวนการเรียนรู้
ครั้งที่ 5
การจัดการเรียนรู้เพื่อสำรวจและเปลี่ยนแปลงโลกภายในของผู้เรียน
  1. ความเข้าใจโลกภายในของคนสำคัญอย่างไรต่อการจัดการเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงคนในหลากหลายด้าน
  2. เหตุปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเรียนรู้ไม่สามารถลงลึกสู่พรมแดนของโลกภายในผู้เรียนได้
  3. ปัจจัยและวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เข้าไปสืบค้นสำรวจโลกภายในเพื่อการเปลี่ยนแปลงในระดับที่ลงลึก
  4. การออกแบบกิจกรรมผ่านประสบการณ์ตรง การสรุปบทเรียน และเครื่องมือการเรียนรู้ที่สำคัญอื่นๆ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนรู้เพื่อเข้าถึงโลกภายใน
  5. ทุกท่านจะต้องฝึกฝนทำกระบวนการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติจริง
  6. ทักษะเสริมอื่นๆ ที่จำเป็นในการจัดการเรียนรู้ เช่น การอ่านหรือประเมินกลุ่ม การแก้ไขสถานการณ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ เป็นต้น
  7. การออกแบบและวางแผนหลักสูตรการเรียนรู้

ใช้กิจกรรมผ่านประสบการณ์ตรงที่หลากหลาย เช่น กิจกรรมหรือเกมเพื่อการเรียนรู้ ละครสั้น บทบาทสมมุติ การบรรยายเฉพาะเนื้อหาที่เป็นหลักการสำคัญ การพูดคุยกลุ่มย่อย การรวมกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือเรื่องบทเรียนต่างๆ

จำนวนไม่เกิน 36 คน

คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมอบรม

  1. สามารถเข้าร่วมอบรมได้ตลอดต่อเนื่องทุกครั้งในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมที่จะเปิดใจเรียนรู้
  2. มีความสนใจกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เพื่อเปลี่ยนแปลงตนเอง ทำงานเกี่ยวข้องกับการสร้างกระบวนการเรียนรู้และเผยแพร่ความรู้ให้กับผู้อื่นและสังคม
  3. มีพื้นที่/เวทีในการทำงานชัดเจนที่สามารถพัฒนาและสร้างสรรค์กระบวนการเรียนรู้หลังจากที่ผ่านการอบรมได้

ปรีดา เรืองวิชาธร และทีมกระบวนกรเสมสิกขาลัย

ระยะเวลาอบรม

อบรม 3-4 วัน (อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม)

สถานที่อบรม

ห้องโปร่งโล่งกว้างไม่มีสิ่งกีดขวาง เงียบสงบไม่มีเสียงรบกวน และเหมาะสำหรับทำกิจกรรมเคลื่อนไหว

สอบถามเพิ่มเติม

Public ☎︎ 086 327 7792
In-house ☎︎ 089 499 0490

Copyright © 2025 เสมสิกขาลัย. All Rights Reserved. | Fotografie Blog by Catch Themes