ผู้เขียน จอย ชนาธิป

️คอร์สโอบอุ้มความเปราะบาง ภาวนากับการเยียวยาตัวเอง
ในคอร์สเป็นการพาฝึกสมาธิแบบ Somatic Meditation หรือ กาย่า หรือเป็น Wisdom ของร่างกาย เป็นการ Embodiment (Body – Mind Synchronisation) เป็นการ Connect กับร่างกายตัวเอง เพราะเมื่อเราเครียดหรือเกร็งตัว แปลว่าเราไม่เชื่อมโยงกับร่างกายตัวเอง เราจึงมาฝึก Connect กับพื้นดิน หรือ Connect กับ Space
️ลักษณะการนั่ง คือการจินตนาการว่ามีลมไหลมาจากพื้นดินขึ้นมาที่ฝีเย็บ แล้วไหลต่อไปตามแนวกระดูกสันหลังถึงหัว ทำครั้งละ 45 นาที
️ลองสังเกตดูว่ามีอะไรที่ทำให้เราอยู่กับตัวเองไม่ได้ จนต้องเอาตัวเองออกจากภาวะนั้นๆ เป็นการขยับหนีออกจากทุกข์ ให้เราลองสังเกตทุกข์ และอยู่กับมันดู อยู่โดยไม่ไปจัดการควบคุมแก้ไข เพราะในชีวิตจริงเราจะหนีโดยอัตโนมัติ แล้วยิ่งหนีก็ยิ่งวุ่นวาย หนีไปก็ไปเจอความทุกข์รูปแบบใหม่ เราจึงต้องมาฝึกเผชิญความทุกข์ให้ได้ เพื่อขยายขอบเขตตัวเองที่จะอยู่กับความทุกข์ได้ เวลาที่ความทุกข์เข้ามา เราก็ตระหนักรู้ แล้วปล่อยทุกข์ไป กลับมาอยู่ที่ร่างกายตัวเอง เมื่อความคิด หรืออารมณ์วิ่งเข้ามา ก็รับรู้และสังเกตมัน ไม่ผูกติดกับมัน ปล่อยมัน แล้วกลับมาที่ร่างกาย มาอยู่กับลมหายใจ เป็นการ embodiment เมื่อเจอเหตุการณ์ร้ายๆ เราจะได้ไม่ต้องหนีแบบเดิมๆ ที่เคยเป็น เราจะสามารถที่จะอยู่กับมันได้มากขึ้น รับรู้ มองมัน
️การภาวนา เป็นการศิโรราบกับปัญหา ไม่หาทางแก้ เราทำตัวเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับความทุกข์ที่เข้ามา ปล่อยให้ความทุกข์มาเป็นอย่างที่มันเป็น ให้ Space กับมัน ยอมรับในสิ่งที่มันเป็น ไม่ไปจัดการ แล้วเราจะเห็นว่าความทุกข์มันเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ได้มาจากการคิด แต่จากการเป็นอยู่ การซื่อตรงกับร่างกายและความรู้สึก
️การเดินทางจิตวิญญาณเป็นการเปลี่ยนจาก Condition mind เป็น Uncondition mind ทำให้เงื่อนไขกลายเป็นไร้เงื่อนไข รับได้ทุกสภาวะทุกแง่มุมของความเป็นมนุษย์ เริ่มจากการที่เราต้องรู้เงื่อนไขและปล่อยมันให้ได้ ไปสู่ความว่าง เราจะวางใจในธรรมชาติที่ไม่มีเงื่อนไข
️การภาวนา 3 แบบ
– Up Journey การปล่อยวาง หลุดพ้น นิพพาน
– Middle Journey การปฏิสัมพันธ์กับคนรอบตัว
– Down Journey ความรู้สึกทุกข์แบบที่ไม่เคยเข้าใจมาก่อน ดิ่งสู่ความเวิ้งว้าง
️นั่งสมาธิ นึกถึงเรื่อง Down Journey แล้ว Amplify ขยายความรู้สึกให้ใหญ่ขึ้น สัมผัสรับรู้มัน ให้พื้นที่มัน อยู่กับมัน แล้วเราจะไปเจอคุณสมบัติบางอย่าง เช่น ความเปราะบาง ความอ่อนโยน เป็นการนั่งสมาธิแบบที่เมื่อมีอะไรผุดขึ้นมาก็รับรู้มัน เชื่อมโยงกับร่างกาย ให้พื้นที่มัน โอบอุ้มมัน โดยไม่ปฏิเสธมัน
️การที่เราจะเติบโตได้ เราจะต้องไปสัมผัสความเปราะบางภายในตัวเองก่อน การนั่งสมาธิแบบ “ทองเลน” คือการสูดลมหายใจเข้าแล้วนึกถึงลมสีดำควันเขม่าที่เป็นความทุกข์ แล้วหายใจออกเป็นควันขาวบริสุทธิ์ เป็นการส่งความรักอันเปิดกว้างออกไป
️กิจกรรมนี้ทำให้เราได้หยุดนิ่งกับตัวเอง จากที่เคยวิ่งหนีทุกข์ หรือการพยายามจัดการควบคุมความทุกข์มาตลอด ก็ได้ลองวิธีใหม่คือการเปิดใจให้พื้นที่ความทุกข์ได้เป็นอยู่ เราก็แค่รับรู้สัมผัสว่าความทุกข์เป็นมายังไง อยู่กับมันแบบซื่อๆ ให้มันเป็นในแบบตัวตนของมัน เราแค่สังเกตเฝ้าดูอยู่เฉยๆ แล้วสักพักมันก็จะแปรเปลี่ยนไปของมันเอง เป็นเทคนิคใหม่ในการเผชิญหน้ากับความทุกข์โดยไม่ต้องไปหาวิธีแก้หรือหนีออกจากมันเลย เพียงแค่อยู่กับมัน Connect กับร่างกายตัวเอง โฟกัสที่ลมหายใจ แล้วความทุกข์มันจะดูแลตัวมันเอง
️การทำวิธีนี้ทำให้เราคิดเปรียบเสมือนว่าความทุกข์เป็นเพื่อนคนหนึ่ง ที่เข้ามาหาเรามาบ่นระบายความในใจให้เราฟัง สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือพื้นที่ปลอดภัย มีคนรับฟังเขา ให้เขาได้พูดความในใจออกมา เราไม่ต้องไปช่วยคิดวิธีแก้อะไร เพราะจริงๆ เขามีวิธีของตัวเองอยู่แล้ว เขาแค่ต้องการคนรับฟัง เพื่อที่เขาจะได้เล่าออกมา ซึ่งการเล่าของเขาก็ทำให้เขาได้เรียบเรียงความคิดตัวเองด้วย หน้าที่เราก็แค่อยู่ข้างๆ เฉยๆ พอเขาพูดระบายจนจบเขาจะเจอทางออกของตัวเองเอง และนี่แหละก็คือวิธีที่เราจะดูแลความทุกข์ให้กับตัวเราเอง
️ขอบคุณคอร์สโอบอุ้มความเปราะบาง ภาวนากับการเยียวยาตัวเอง จัดโดยคุณวิจักขณ์ พานิช จากสถาบันเสมสิกขาลัย มูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป