สุลักษณ์ ศิวรักษ์
สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ เข้าเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญและบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดทองนพคุณ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สุลักษณ์ได้รับการศึกษาต่อในประเทศอังกฤษ สำเร็จเป็นเนติบัณฑิตก่อนเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อปี 2504 และเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2506 สุลักษณ์ได้ริเริ่มจัดพิมพ์และเป็นบรรณาธิการ วารสาร สังคมศาสตร์ปริทัศน์ ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 6 ปี สังคมศาสตร์ปริทัศน์ ได้กลายเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีอิทธิพลอย่างยิ่ง บทบาทในการกระตุ้นจิตสำนึกของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เป็นไปอย่างกว้างขวาง จนสามารถเป็นแรงโค่นล้มรัฐบาลลงได้สำเร็จเมื่อปี พ.ศ. 2516
อาจารย์สุลักษณ์ยังมีบทบาทนำในการมุ่งสร้างสรรค์ให้เกิดสังคมพลเรือนที่เข้มแข็งขึ้นในสังคมไทย เป็นความพยายามอันหนึ่งในบรรดาแรงผลักดันให้เกิดความเคลื่อนไหวในขบวนการองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินการตามแนวคิดของการฟื้นคืนภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยผ่านทางเครือข่ายองค์กรการพัฒนาในมิติต่าง ๆ ในสังคมไทยปรัชญาเบื้องหลังองค์กรที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก อาจารย์สุลักษณ์มี 2 อย่าง กล่าวคือ การปฏิเสธแม่แบบการพัฒนาอย่างตะวันตกที่รากฐานมาจากลัทธิบริโภคนิยม โดยมุ่งเสริมกระบวนการพัฒนาที่เติบโตและมีรากเหง้ามาจากวัฒนธรรมไทยหรือวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการเน้นย้ำถึงหลักการสำคัญของมิติทางจิตวิญญาณและศาสนาธรรมในวิถีชีวิตของมนุษย์ อันวางอยู่บนพื้นฐานในทางพระพุทธศาสนาที่ประกอบขึ้นด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างปราศจากอหังการมมังการและความจำเป็นที่จะต้องโยงประยุกต์ใช้ศาสนาธรรมเข้ากับการรับใช้สังคม เขาได้นำเสนอแนวคิดเบื้องหลังเหล่านี้ สู่สาธารณชนวงกว้างผ่านการลงมือปฏิบัติข้อเขียนและการพูดจาปราศรัยทั้งภายในประเทศและนานาชาติ
อาจารย์สุลักษณ์ ได้ริเริ่มพัฒนาความคิดใหม่ 2 ประการ ประการแรกคือ การสร้างเครือข่ายนานาชาติเพื่อทางเลือกออกจากสังคมบริโภคนิยม อันเป็นความพยายามที่จะบันทึกเรื่องราวน่าสนใจของทางเลือกที่ยั่งยืนชนิดที่ไปพ้นรูปแบบการบริโภคนิยมอย่างตะวันตก โดยมีแรงบันดาลใจจากศาสนาธรรม ซึ่งจะมีการแสวงหาวิธีการอันปราศจากความรุนแรง ผสมผสานความร่วมมือระหว่างศาสนา และขบวนการประชาชนท้องถิ่นเข้าด้วยกัน
ประการที่สองคือ การพัฒนาสถาบันการศึกษาอย่างใหม่ขึ้นในสังคมไทย นี้เพื่อแสวงหาวิธีการที่ไปพ้นจากระบบการศึกษาอย่างใหม่ขึ้นในสังคมไทย ทั้งนี้เพื่อแสวงหาวิธีการที่ไปพ้นจากระบบการศึกษากระแสหลัก ในการนี้ อาจารย์สุลักษณ์ ได้เป็นกำลังหนุนเสริมให้นักคิดและนักการศึกษาแนวทางเลือกที่สำคัญหลายต่อหลายท่าน ร่วมกันก่อตั้งเสมสิกขาลัย (SEM ย่อมาจาก Spirit in Education Movement) ซึ่งมุ่งที่จะเสนอทางเลือก อันเป็นองค์รวมและตั้งอยู่บนรากฐานทางศาสนาธรรมเพื่อจะไปพ้นจากระบบการศึกษาที่แยกหัวใจออกจากสมอง แยกความรู้ออกเป็นเสี่ยง ๆ
จากการใช้ชีวิตและการทำงานเพื่ออุทิศตัวเองให้กับสังคมมาอย่างยาวนาน ปี 2538 อ.สุลักษณ์จึงได้รับประกาศเกียรติคุณรับรางวัล Alternative Nobel Price หรือ Right Livelihood Award (สัมมาอาชีวะ ด้านการต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย) ณ กรุงสตอคโฮล์ม รัฐสภาสวีเดน
เป็นวิทยากรในหัวข้อดังนี้
- เข้าใจโครงสร้างสังคม